KTB บวก 1.23% โบรกฯมองการแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯไม่กระทบการดำเนินงาน
July 31, 2012 by admin
Filed under การเงิน การลงทุน
KTB บวก 1.23% โบรกฯมองการแก้ปัญหาหนี้กองทุนฟื้นฟูฯไม่กระทบการดำเนินงาน
หุ้น KTB ราคาขยับขึ้น 1.23% มาอยู่ที่ 16.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท มูลค่าซื้อขาย 293.30 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.20 น.โดยเปิดตลาดที่ 16.50 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 16.60 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 16.40 บาท
หนังสือพิมพ์เช้านี้รายงานข่าวโดยอ้างแหล่งข่าวจากกองทุนฟื้นฟูฯว่าอาจจะพิจารณาใช้หุ้นธนาคารกรุงไทย(KTB)ในการแก้ปัญหาหนี้ โดยอาจจะเลือกที่จะขายหุ้นออกไปบางส่วน หรือออกหุ้นกู้โดยใช้หุ้นของ KTB ในการค้ำประกัน
ขณะที่ บล.เกียรตินาคิน ระบุว่า เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ หากเลือกการขายหุ้นน่าจะขายเพียงบางส่วนก็ไม่น่ากระทบกับ KTB ซึ่งการขายหุ้น KTB ออกไปเป็นหนึ่งทางเลือกมาตั้งแต่แรก แต่ทางรัฐบาลยังต้องการใช้ KTB ในการส่งผ่านนโยบายไปสู่ระบบเศรษฐกิจ จึงยังไม่ขายหุ้นออกมา
ดังนั้น หากมีการขายจริงก็คาดว่าจะขายออกมาเพียงบางส่วนเท่านั้น โดยอาจขายราว 4.07% จากที่ถืออยู่ 55.07% เพื่อรักษาสถานะการเป็นรัฐวิสาหกิจ เมื่อเทียบกับราคาเหมาะสมจะทำให้ได้เงินจากการขายหุ้นประมาณ 1.3 หมื่นล้านบาทแทบไม่มีนัยต่อการใช้หนี้กองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 1.4 ล้านล้านบาท
ส่วนการออกหุ้นกู้จะทำให้เสียดอกเบี้ย ซึ่งเป็นการก่อหนี้ใหม่เพื่อชำระหนี้เก่า จึงอาจจะไม่เหมาะสมนัก เนื่องจากทางกองทุนฟื้นฟูฯยังต้องรับภาระดอกเบี้ย
ทั้งนี้ คงประมาณการ KTB ที่ราคาเหมาะสม 22.40 บาท และยังคงแนะนำ”ซื้อ”โดยมองว่าไม่ว่ากองทุนฟื้นฟูฯ จะเลือกใช้วิธีการใดในการลดหนี้กองทุนฟื้นฟูฯก็จะไม่กระทบกับการดำเนินงานของ KTB โดยยังคงประมาณการกำไรสุทธิปี 55 ของ KTB ไว้เหมือนเดิมที่ 26,086 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.33 บาท
รวมทั้ง มองว่า KTB มีข้อได้เปรียบจากความใกล้ชิดกับรัฐบาลจะทำให้มีสินเชื่อที่เกี่ยวเนื่องกับหน่วยงานรัฐเพิ่มขึ้นในช่วงที่เหลือของปี จะทำให้สินเชื่อเติบโตต่อเนื่อง นอกจากนี้ KTB ยังเป็นธนาคารที่มีระดับเงินปันผลสูง โดยเราคาดว่างวดปีนี้ KTB จะจ่ายปันผล 0.95 บาท/หุ้น คิดเป็น Div.yield 5.8% เป็นระดับที่สูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ แต่จะไม่มีการจ่ายปันผลระหว่างกาล
ด้าน บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ”ทยอยสะสม”หุ้น KTB ราคาเหมาะสม 23.00 บาท เนื่องจากราคาหุ้น Laggard มากเมื่อเทียบกับหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยนับจากต้นปีที่ผ่านมาราคาหุ้นเพิ่มขึ้นเพียง +9.4% น้อยกว่า SET BANK +28.6% และหุ้นกลุ่มธนาคาร ได้แก่ BAY +46.4%, KBANK +41.5%, SCB +36.8% และ BBL +26.8%
ทั้งนี้ คาดว่าเกิดจาก Overhang ช่วงสั้น ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร เนื่องจากกรรมการผู้จัดการใหญ่จะครบวาระในเดือน พ.ย.55 และปัจจุบันอยู่ระหว่างการสรรหาคนใหม่ คาดว่าจะสรุปภายในเดือน ต.ค., ความกังวลว่าอาจต้องเพิ่มทุนเนื่องจากระดับ Tier-1 ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในกลุ่ม และเป็นธนาคารที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลใน 1H55
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า KTB ยังมีฐานทุนเพียงพอสำหรับการขยายธุรกิจ และยังไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุนในเร็วๆนี้ และการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารเป็นเพียงปัจจัยลบทาง Sentiment เท่านั้น และจะไม่ส่งผลกระทบต่อทิศทางการเติบโตของ KTB ในปี 56 เนื่องจากตลาดสินเชื่อยังมีความต้องการสูง และพอร์ตสินเชื่อหลัก เป็นการปล่อยกู้ให้กับภาครัฐซึ่งมีงบประมาณรองรับชัดเจน
นอกจากนี้ KTB ยังให้เงินปันผลในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าจะจ่ายเงินปันผลงวดปี 55 หุ้นละ 0.70 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผล 4.3%
ที่มา – อินโฟเควสท์
Comments
Feel free to leave a comment...
and oh, if you want a pic to show with your comment, go get a gravatar!